
“เคล็ดลับตื่นเช้า” สำหรับมนุษย์เงินเดือน
“เคล็ดลับตื่นเช้า” สำหรับมนุษย์เงินเดือน หากใครตื่นสายเป็นประจำ เราขอแนะนำให้คุณตื่นเช้าขึ้น เพราะการตื่นเช้านั้น ส่งผลดีต่อร่างกายหลายอย่าง รวมทั้งการช่วยให้มีรูปแบบการนอนที่ดีขึ้น ช่วยให้มีประสิทธิภาพในการทำงาน และช่วยให้เรากินอาหาร ที่มีประโยชน์มากขึ้นด้วย แต่หากไม่รู้ว่าทำยังไง ถึงจะตื่นเช้าขึ้นได้ เรามีเคล็ดลับตื่นเช้า มาฝากกัน

- กินอาหารเช้าที่ดีต่อสุขภาพ
อาหารมื้อเช้า เป็นมื้อที่สำคัญที่สุด ฉะนั้น ถ้าใครต้องการเป็นคนตื่นเช้า ก็ควรเตรียมอาหารเช้า แบบดีต่อสุขภาพไว้ให้ครบถ้วน ในช่วงที่เรานอนหลับพักผ่อนอยู่นั้น ระดับน้ำตาล และการเผาผลาญของเรา จะลดต่ำลง เราจึงต้องการอาหารเช้าดี ๆ มาช่วยเติมพลังให้กับร่างกาย
อาหารเช้าควรประกอบไปด้วยโปรตีน ผลไม้หลากสีสัน และธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสี เช่น โยเกิร์ตใส่กราโนล่า ข้าวโอ๊ตกับนมสม และผลไม้ และหากใครเป็นคอกาแฟ ผู้เชี่ยวชาญก็แนะนำ ให้ชงกาแฟดำ งดน้ำตาล และครีมเทียม และผสมนมสด หรือนมถั่วเหลืองลงไปด้วย เพื่อช่วยเพิ่มแคลเซียม และโปรตีน ให้กับกาแฟของคุณด้วย
- ให้รางวัลตัวเอง
นักจิตวิทยาแนะนำว่า ถ้าใครตื่นเช้าได้สำเร็จ ก็ควรใช้เวลาสักสองสามนาทีในการ “ตบรางวัล” ให้กับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ ฟังเพลงสักเพลงสองเพลง หรือแม้แต่การนั่งสมาธิ
การตื่นเช้าจะช่วยให้คุณ มีเวลาทำกิจกรรมยามเช้าเพิ่มขึ้น และการที่คุณมีเวลาได้นั่งจิบกาแฟ หรือไม่จำเป็นต้องรีบร้อนออกจากบ้าน ก็ถือเป็นการให้รางวัลตนเองอย่างหนึ่งแล้ว

- ออกกำลังกาย
การออกกำลังกาย ในช่วงเช้าตรู่ จะช่วยกระตุ้นให้คุณ กระปรี้กระเปร่า และมีพลังงานในการประกอบกิจกรรมช่วงเช้าได้ ระดับอุณหภูมิ และสารอะดรีนาลีนในร่างกายของเรา จะเพิ่มขึ้นไปได้อีกหลายชั่วโมง หลังออกกำลังกาย
ผลการศึกษาวิจัย แสดงให้เห็นว่า การออกกำลังกาย ก่อนกินอาหารเช้านั้น จะช่วยเผาผลาญไขมันได้มากขึ้น และส่งผลให้น้ำหนักลดลง ได้ดีกว่าการออกกำลังกาย หลังอาหารเช้าด้วย
- สร้างกิจวัตรก่อนนอน
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว คุณควรใช้เวลาอ่านหนังสือ และจิบชา เช่น ชาคาโมไมล์ ชาลาเวนเดอร์ เป็นเวลา 30-45 นาที เพื่อช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย และง่วงนอน
คำแนะนำสำหรับกิจกรรม ที่คุณเลือกทำเป็นกิจวัตรก่อนนอน ควรเป็นกิจกรรมที่ชวนให้จิตใจรู้สึกสงบเยือกเย็น และเป็นสิ่งที่คุณสามารถทำซ้ำได้ทุกคืน ๆ เมื่อเวลาผ่านไป ร่างกายของคุณ ก็จะรู้สึกเคยชินกับกิจวัตรเหล่านั้น และรู้ได้เองว่าเมื่อไหร่ ที่ควรต้องเข้านอนได้แล้ว
และหากคุณอยากนอนหลับเต็มอิ่ม เพื่อจะได้ตื่นเช้าได้แบบสดชื่น ไม่งัวเงีย บรรยากาศในการนอน ก็มีความสำคัญเช่นกัน ควรจัดห้องนอนให้เป็นระเบียบเรียบร้อย และสะอาดสะอ้าน เพราะจะช่วยให้จิตใจรู้สึกผ่อนคลายได้ง่ายขึ้น ห้องนอนควรเป็นสถานที่ ที่ใช้สำหรับการผ่อนคลาย และการนอนเท่านั้น

- ไม่ควรมีหน้าจออะไรอยู่ในห้องนอน
เวลานอนห้องนอน ควรมืดสนิท คุณจึงไม่ควรมีหน้าจออะไรในห้องนอน ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอคอมพิวเตอร์ หน้าจอโทรทัศน์ เป็นต้น เพราะแสงจากหน้าจอเหล่านั้น อาจทำให้คุณนอนหลับไม่สนิทได้ หรืออย่างน้อย ควรตั้งเวลาปิดไว้ให้แน่นอน
คุณไม่ควรใช้คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ้ค แท็บเล็ต รวมทั้งโทรศัพท์ ในห้องนอนด้วย เพราะนอกจากจะมีแสงรบกวนการนอนแล้ว ยังส่งผลต่อสมอง และคุณอาจใช้เวลากับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เหล่านั้น เพลินจนเลยเวลานอนได้ด้วย
- เปิดทางให้แสงเข้ามาในห้องนอน
ด้วยความที่สมองของเราอ่อนไหวต่อแสง และอุณหภูมิในช่วงเช้า ๆ ซึ่งนั่น คือ เหตุผลว่าทำไมเราถึงนอนต่อไปไม่ได้ หลังจากเปิดม่านให้แสงผ่านเข้ามาในห้องนอนแล้ว ถึงแม้เราจะเหนื่อยล้า หรือนอนดึกขนาดไหนก็ตาม
ฉะนั้น วิธีฝึกตื่นเช้าที่ง่ายที่สุด ก็คือ ตื่นแล้วรีบลุกไปเปิดไฟ หรือเปิดผ้าม่าน ให้มีแสงสว่างในห้องนอนทันที เพื่อเป็นการส่งสัญญาณให้ร่างกายรู้ว่า นี่คือช่วงกลางวัน และร่างกายจะได้ตื่นตัวเร็วขึ้น

- เลิกกดปุ่ม “Snooze” ได้แล้ว
การที่เราตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการงัวเงีย ถึงแม้จะนอนหลับหลายชั่วโมง นั่นอาจเป็นผลมาจาก “ช่วงที่เรากำลังหลับลึก” ถูกรบกวน ช่วงเวลาที่เราหลับลึกได้มากที่สุดนั้นจะกินเวลาประมาณ 70 ถึง 90 นาที ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เรามักฝันกันนั่นเอง
ฉะนั้น ช่วงเวลาที่เหมาะกับการตื่นมากที่สุด คือ ช่วงเวลาเริ่มต้นในการหลับลึก ซึ่งจะมีอาการหลับลึกอยู่น้อยที่สุด ถ้าจะให้ดีก็ลองใช้แอป Sleep Time ในการตั้งนาฬิกาปลุก ซึ่งแอปนี้ จะช่วยจับคลื่นความถี่ในการนอนของคุณ และส่งเสียงปลุกที่ฟังสบาย ๆ เมื่อรู้ว่าคุณไม่อยู่ในช่วงหลับลึกเท่านั้น
- ค่อยเป็นค่อยไป
หากคุณเคยตื่นสายเป็นประจำ การจะให้ตื่นเช้าเลยทันที อาจเป็นไปได้ยาก ฉะนั้นคุณควรค่อยเป็นค่อยไป โดยเริ่มจากการปรับเวลาเข้านอน และตื่นนอนให้เร็วขึ้นวันละ 15 นาที เมื่อทำจนชินร่างกาย ก็จะสามารถเข้านอนเร็ว และตื่นเช้าได้เอง

- ตื่นนอนเวลาเดิมทุกวัน
คุณควรเข้านอน และตื่นนอน เวลาเดิมทุกวัน เพื่อให้ร่างกายเคยชิน โดยทั่วไปแล้วผู้ใหญ่วัยทำงาน ควรนอน 7-9 ชั่วโมง ฉะนั้น หากคุณอยากตื่นตอนหกโมงเช้า ก็ควรเข้านอนก่อนห้าทุ่ม
หากคุณเข้านอนดึกแต่ตื่นเช้า ก็จะทำให้รู้สึกเหนื่อยล้าได้ และถึงแม้จะเป็นช่วงวันหยุด คุณก็ควรตื่นนอนเวลาเดิม หรืออาจตื่นสายกว่าเดิมได้เล็กน้อย เพื่อไม่ทำให้ร่างกาย และสมองสับสน เป็นการฝึกวินัยตัวเองอย่างช้า ๆ แค่ปรับพฤติกรรม รวมถึงเวลาการตื่นนอนให้เช้าขึ้นกว่าเดิม อ่านเพิ่มเติม 10 พฤติกรรมที่ทำสมองพัง ไม่รู้ตัว!
อ่านบทความอื่น ๆ ได้ที่ : ภัยร้ายจากบุหรี่ ที่คุณควรรู้!!
“เคล็ดลับตื่นเช้า” สำหรับมนุษย์เงินเดือน

